Tuba
ทูบา เป็นเครื่องที่ใหญ่และเสียงต่ำที่สุดในตระกูลเครื่องทองเหลือง เสียงเกิดจากการสั่นของริมฝีปากที่แตะกับเมาท์พีซ ค่อนข้างเป็นที่นิยมในวงซิมโฟนีออร์เคสตราสมัยใหม่ ปรากฏครั้งแรกในกลางศตวรรษ 19 แทนที่ Ophicleide คำว่า Tuba เป็นภาษาละตินหมายถึง Trumpet หรือ Horn (โอ้...) ส่วนคำว่า horn หมายความใกล้เคียงกับ Baroque Trumpet ที่สุด
Ophicleide
ประวัติ
Wilhelm Friedrich Wieprecht และ Carl Moritz ได้จดสิทธิบัตรสำหรับ Basstuba in F1 ของพวกเขาในวันที่ 12 กันยายน 1835 ทูบาของพวกเขามี 5 ลูกสูบ แบบ Berlinerpumpen (อะไรหว่า?) ซึ่งเป็นต้นแบบของ Rotary valve ในปัจจุบัน
ลูกสูบแบบ Berliner pumpen
การมีลูกสูบมากขึ้นก็คือสามารถเล่นโน้ตที่ต่ำลงได้มากขึ้นด้วย ทำให้การเล่นโน้ตครอบคลุมมากขึ้น ก่อนจะมีการสร้างลูกสูบ เครื่องทองเหลืองถูกจำกัดในการเล่นโน้ต การเล่นในสมัยก่อนจึงนิยมเล่นเสียงสูง ๆ (จะบ้าเรอะ -*-) จากเสียงหลัก โดยประมาณ 3 Octaves (Lets go to the hell together!!) ทำให้การเล่นโน้ตหลากหลาย (เหรอ...)
Ophicleide (อ่านว่าอะไรหว่า??) ใช้เมาท์พีซรูปถ้วยทำจากทองเหลือง แต่มีปุ่มและรูแบบเดียวกับแซ็กโซโฟนในปัจจุบัน ต้นแบบของทูบาอีกสิ่งก็คือ Serpent (คือ... มันคืองูทะเล ว่ะ?) รูปร่างของเครื่องดนตรีนี้คล้ายกับคลื่น (ตรงไหน?) เพื่อให้เสียงออกมาฟังง่ายที่สุด หลุมเสียง (Tone holes ใครแปลได้ดีกว่านี้ก็บอกมา) ทำให้เสียงเปลี่ยนแปลงได้โดยการทำให้ลมรั่วมากหรือน้อยจากเครื่อง (ก็เหมือนกับขลุ่ย ปะ?) แต่การเปลี่ยนของเสียงลักษณะนี้ส่งผลต่อความนิ่งด้วย ซึ่งการใช้ลูกสูบจะแก้ปัญหาจุดนี้ได้จึงได้รับความนิยมมากกว่า (โอ้ว เย่ จะได้ไม่ต้องเป่าสูง ๆ กันแล้วใช่มะ)
Adolph Sax (คนสร้างแซ็กโซโฟน) ก็เช่นเดียวกับ Wieprecht คือสนใจในวงจรของเครื่องดนตรีทั้งสูงและต่ำ และก็พัฒนาเครื่องทองเหลืองที่เรียกว่า Saxhorns จากแซ็กโซโฟนปกติ ที่ใช้คีย์ Eb และ Bb ขณะที่ Wieprecht ก็สร้าง Contrabass tuba คีย์ F และ C ขึ้นมา เครื่องของเจ้าแซ็กโด่งดังในฝรั่งเศส และอังกฤษ อเมริกาในภายหลัง (แล้วเกี่ยวอะไรกับทูบา)
บทบาท
ส่วนใหญ่แล้ววงออร์เคสตราจะมีทูบาตัวเดียว แต่บางทีก็ต้องใช้ถึงสอง ถือเป็นหัวใจหลักของวงซิมโฟนีและวงดนตรีทหาร (ว้าว!!) และวงเหล่านั้นก็จะมีหลายตัวกว่า ทูบาถือเป็นเสียง bass ของเครื่อง brass ทั้งใน brass quinted และ choirs และอาจจะใช้ร่วมกับ woodwinds หรือ string ได้ด้วย หรือ!! อาจใช้บรรเลงเดี่ยวก็ได้
ผู้เล่น และส่วนบรรเลงของทูบาที่รู้จักกันดีได้แก่
Modest Mussorgsky (arr. Ravel) (Pictures at an Exhibition - Bydlo)
Richard Strauss (Also sprach Zarathustra, Eine Alpensinfonie).
Shostakovich (Fifth symphony).
Stravinsky (The Rite of Spring).
Edgard Varèse (Déserts).
Richard Wagner (Die Meistersinger von Nürnberg, Lohengrin, Ride of the Valkyries).
Sergei Prokofiev (Fifth Symphony).
George Gershwin (An American in Paris)
Silvestre Revueltas (Sensemayá, Noche de los mayas, Homenaje a Federico García Lorca)
ผู้เขียน Concertos ที่ได้เรียบเรียงโน้ตสำหรับทูบาไว้ เช่น Ralph Vaughan Williams, Edward Gregson, John Williams, Alexander Arutiunian, Eric Ewazen, James Barnes, Martin Ellerby, Philip Sparke, Kalevi Aho, Arild Plau, James Woodward, Victor Davies, Josef Tal, Bruce Broughton, and Joseph Hallman เป็นต้น ทูบาถูกใช้ทั้งในวง Concert band Marching band, drum and bugle corps ในวงเครื่อง brass สไตล์บริติชก็มีทั้งแบบ Eb และ Bb ทูบา ซึ่งมักใช้ผลิตเสียง bass
In british style brass band
ชนิดและโครงสร้าง
ทูบาก็มีหลายคีย์เช่นกัน ชนิดที่พบบ่อยมักเป็น F Eb C Bb บีแฟลตทูบามีท่อยาวถึง 18 ฟุต (...) ขณะที่ ซี 16 ฟุต อีแฟลต 13 เอฟ 12 (ทำไมต้องเรื่องมากด้วยนะ) มี bore เป็นทรงกรวย เพื่อที่เส้นผ่านศูนย์กลางของ bore จะเพิ่มขึ้นตามความยาวของท่อจากเมาท์พีซจนถึงเบล bore ทรงกรวยจะทำให้เสียงที่ออกมามีความกึกก้องมากที่สุด (ฟังดูยิ่งใหญ่นะ)
ทูบาที่ถูกออกแบบลักษณะมาให้วางบนตักถูกเรียกว่า Concert tuba ส่วนทูบาที่ Bell ชี้ไปข้างหน้า (Pavillon tournant) แทนที่จะชี้ขึ้นเรียกว่า Recording tuba เพราะในสมัยก่อนถูกใช้สำหรับ recorded music เนื่องจากเสียงที่ง่ายต่อการ record (ไม่กล้าแปลเด๋วเข้าใจผิด ตัวเองยังงงเลยเนี่ย) แต่ถ้าใช้พันรอบตัว (ฟังดูน่ากลัว) รู้จักกันในชื่อ helicon คำว่า Sousaphone ถูกตั้งขึ้นจาก John Philip Sousa วาทยกรชาวอเมริกัน Sousaphone ก็คือ helicon ที่คอเบลชี้ขึ้นแล้วโค้งไปข้างหน้า (ไม่เข้าใจอีกล่ะสิ T.T) ญาติที่รักส์ ของทูบาอันอื่น ๆ เช่น bombardon ถูกออกแบบให้วางบนไหล่ของผู้เล่น เครื่องดนตรีเหล่านี้ถูกใช้ในวงทหารช่วงสงครามกลางเมืองอเมริกัน เป็นที่รู้จักกันในชื่อ “Saxhorns ที่วางบนไหล่”
Helicon
เพลงสำหรับทูบา ส่วนใหญ่เขียนขึ้นโดยใช้กุญแจฟา ผู้เล่นจึงต้องรู้ Fingering ของตนเองเป็นอย่างดี ในวง British-style brass ใช้กุญแจซอลสำหรับโน้ตของบีแฟลต โดยเล่นโน้ตที่ต่ำลงมา 2 octaves กับอีก 1 ขั้น (ทรานเองในหัวใช่มั้ย?) และอีแฟลตทูบาลงมา 1 octave กับอีก 6 ขั้น ทำให้นักดนตรีสามารถเปลี่ยนเครื่องดนตรีได้โดยไม่ต้องเรียนรู้ Fingering ใหม่ ๆ สำหรับเพลงเดิม เพราะงั้น ถ้าเพลงถูกเขียนขึ้นโดยกุญแจซอล ทูบาก็ถือเป็นเครื่องที่ต้อง Transpose โน้ต แต่สำหรับกุญแจฟาแล้ว ไม่ต้อง (ชาบูชาบู)
Bombardon
ทูบาประเภทที่เสียงต่ำที่สุดคือ Contrabass tuba ในคีย์ซี หรือบีแฟลต (หมายถึง CC และ BBb ของวง) ความถี่ของเสียง CC อยู่ที่ 32 เฮิร์ตซ์ BBb 29 เฮิร์ตซ์ CC ทูบาใช้ในวงออร์เคสตราของอเมริกา ส่วน BBb ใช้ในเยอรมนี ออสเตรีย และรัสเซีย สำหรับอเมริกาแล้ว BBb มักใช้ในโรงเรียนมากกว่า (เช่นเดียวกับ BBb Sousaphone)
Contrabass tuba
ทูบาที่ขนาดเล็กลงหน่อยคือ bass tuba ในคีย์ F หรือ Eb (สี่ขั้นจาก Contrabass) อีแฟลตทูบาเล่นสูงกว่า Contrabass อยู่ 1 Octave ส่วนเอฟทูบาใช้สำหรับบรรเลงเดี่ยว (โซโล่นั่นเอง) หรือเล่นในเพลงคลาสสิคบางเพลง ในยุโรป เอฟทูบาเป็นเครื่องดนตรีพื้นฐาน
Bass Tuba
ยูโฟรเนียม บางครั้งถูกเรียกว่า Tenor Tuba ในเสียง Bb สูงกว่า BBb Contrabass tuba 1 octave คำว่า tenor tuba มักจะใช้สื่อถึงทูบาคีย์ Bb ที่มีลูกสูบแบบ Rotary คำว่า Small French tuba in C คือเทเนอร์ทูบาในคีย์ C มีลูกสูบ 6 อัน French C tuba ถือเป็นเครื่องดนตรีพื้นฐานในวงดนตรีฝรั่งเศสจนกระทั่งถูกแทนที่โดย F และ C ทูบา ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2
และเครื่องที่ใหญ่กว่านั้น Subcontrabass tuba ค่อนข้างจะหายาก (มีอย่างน้อย 4 เครื่องที่เป็นที่รู้จัก) สองเครื่องแรกถูกสร้างโดย Gustav Besson ในคีย์ BBBb ต่ำกว่าคอนทราเบส 1 octave ภายใต้คำสั่งของ John Philip Sousa (ที่แท้เจ้าหมอนี่ก็เป็นโรคชอบเครื่องใหญ่ ๆ) แต่ว่า มันก็ไม่เสร็จจนซูซาตาย (ช่างเศร้าจัง) หลังจากนั้นในทศวรรษ 1950 นักดนตรีบริติช Gerard Hoffnung ได้ออกคำสั่งให้บริษัท Paxman ของลอนดอนสร้าง subcontrabass tuba EEEb เพื่อใช้ในงานเทศกาลรื่นเริง ทูบาในคีย์ FFF ก็ถูกสร้างขึ้นมาโดย Bohland & Fuch ใน Kraslice ในปี 1910-1911 เป็นเครื่องที่ต้องใช้ผู้เล่นถึงสองคน คนหนึ่งเป่าและคนหนึ่งกดลูกสูบ
Kaiser tuba [rotary valves]
ถามมันยังมีอีกมั้ยก็มีแหละ
แต่.... ม่ายเอาแล้ว!!!
ที่เหลือมันเป็นเรื่อง ท่อ ไซส์ อะไรแบบนั้น
อยากรู้ก็ถามละกัน เนอะ...
แปลหมด จะตายเอา